โดยความเป็นจริงแล้ว มนุษย์กับธรรมชาติเป็นของคู่กัน โดยสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาตินั้นถือว่าเป็นสิ่งที่มนุษย์นั้นมีความคุ้นเคยมากที่สุด เรียกว่าตามสัญชาตญาณก็ว่าได้ โดยทั้งธรรมชาติและมนุษย์นั้นถือว่าเป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อกันและกันและเชื่อมโยงกันมาโดยตลอด เป็นที่สังเกตุได้ว่า เมื่อคนเรามีเรื่องเครียดหรือต้องการที่จะผ่อนคลาย จึงเลือกที่จะเข้าหาธรรมชาติซะเป็นส่วนมาก เพราะธรรมชาติสามารถมอบพลังงานบางอย่างให้กับเราได้อย่างน่าประหลาดใจ จึงเป็นเหตุผลที่มนุษย์ควรจะอยู่กับธรรมชาติ

1. ธรรมชาติสามารถบำบัดจิตใจและร่างกายได้
ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันนั้นทำให้มนุษย์เกิดความเครียดมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเรื่องการใช้ชีวิตหรือหน้าที่การงาน โดยแต่ละคนอาจมีวิธีเลือกที่จะจัดการกับความเครียดที่แตกต่างกันไป หนึ่งสิ่งที่ได้รับการยอมรับมาอย่างกว้างขวาง คือร่างกายและจิตใจของมนุษย์นั้นสามารถบำบัดได้ด้วยกระบวนการธรรมชาติ เช่น สำหรับบางคนที่ต้องการช่วงเวลาที่อยู่กับตัวเอง หรือต้องการใช้สมาธิ จึงเลือกที่จะหาที่พักอาศัยท่ามกลางธรรมชาติ ไว้เพื่อเป็นการบำบัดสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตใจของตัวเองให้อยู่บนความสมดุลและผ่อนคลาย 

2. การอยู่กับธรรมชาติ สามาถเพิ่มความสุขได้มากยิ่งขึ้น
วิวัฒนาการของมนุษย์นั้นเกิดขึ้นจากสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติและคุ้นเคย ถึงแม้ตัวเราเองจะไม่รู้ตัวก็ตาม การอยู่ท่ามกลางธรรมชาตินั้น จะช่วยเพิ่มความสามารถในการคิด และเพิ่มความรู้สึกในความมีความสุขมากยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยเพิ่มอัตราความคิดสร้างสรรค์ งานวิจัยพบว่า ยิ่งมนุษย์เราใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติมากเท่าไหร่ ผลลัพธ์ที่ได้นั้นก็จะยิ่งมีเพิ่มขึ้น ยิ่งถ้าหากว่าเรามีที่พักอาศัยท่ามกลางธรรมชาติ หรือได้ใช้ชีวิตใกล้ชิดกับธรรมชาติ อัตราในการเป็นโรคเครียดหรือโรคซึมเศร้าของเราจะลดลง เพราะได้รับประโยชน์จากธรรมชาติโดยตรง

3. ธรรมชาติมีผลต่อสมอง รวมถึงภูมิคุ้มกันต่อร่างกาย
แท้จริงแล้วมนุษย์นั้นเกิดขึ้นและผูกพันอยู่กับธรรมชาติเหมือนกับสิ่งมีชีวิตทั่วไป ร่างกายของมนุษย์จึงมีผลตอบรับกับธรรมชาติที่อยู่ในระดับดีมาก สังเกตุว่าทำไมเวลาเราอยู่ในสภาวะที่มีความตึงเครียด การได้ออกไปท่องเที่ยวกับธรรมชาติและสูดลมหายใจเข้าไปรับกลิ่นของต้นไม้ ใบไม้ ถึงทำให้รู้สึกผ่อนคลาย มีงานวิจัยพบว่า กลิ่นหอมจากเนื้อไม้ธรรมชาตินั้นมีผลช่วยลดระดับฮอร์โมนความเครียด กลิ่นหอมที่เกิดขึ้นจากแบคทีเรียในดินนั้นก็ยังสามารถช่วยในการต้านไวรัสได้อีกด้วย รวมถึง เซลล์ภูมิคุ้มกันธรรมชาติหรือที่รู้จักกันในชื่อ NK (Natural Killer) นั้น ถูกพบได้ว่าการใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติจะช่วยเพิ่มระดับเซลล์ NK ให้ได้มากยิ่งขึ้น โดยเซลล์ NK นั้นถือว่าเป็นเซลล์ที่ดี ที่จะช่วยเป็นภูมิคุ้มกันให้กับเรา แต่ความเครียด รวมถึงสารเคมี สภาพแวดล้อม ก็มีผลทำให้เซลล์ NK ลดลงได้ ดังนั้นการมีที่พักอาศัยท่ามกลางธรรมชาติ จะเป็นส่วนช่วยเพิ่มระดับภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายได้มากขึ้น

ในปัจจุบัน มนุษย์อยู่กับสังคมเมืองเป็นส่วนใหญ่ หากจะให้ทิ้งทุกอย่างแล้วไปใช้เวลากับธรรมชาติในป่าเป็นเวลา 3 วันยังถือว่าเป็นเรื่องยากที่จะทำได้ ด้วยปัญหาเรื่องเวลา และความสะดวกสบาย จะดีแค่ไหนถ้าหาก เราสามารถเป็นเจ้าของที่พักอาศัยท่ามกลางธรรมชาติ ได้โดยพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อย่างเช่น โครงการ The Forestias เป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 398 ไร่ บนถนนบางนา-ตราด กม. 7 ในโครงการมีผืนป่าขนาดใหญ่ พื้นที่ 30 ไร่ ที่เริ่มปลูกตั้งแต่เป็นเมล็ดและต้นกล้า ช่วยสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ระบบนิเวศน์ ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่อยากใช้ชีวิตใกล้ชิดกับธรรมชาติ และยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นศูนย์การแพทย์ขนาดใหญ่ พื้นที่เชิงธุรกิจ สำนักงาน สปอร์ตคอมเพล็กซ์ กิจกรรมไลฟ์สไตล์ต่างๆ ร้านค้าปลีก ร้านอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงพื้นที่ Family Center สำหรับกิจกรรมสร้างสรรค์ของครอบครัว และพื้นที่ Town Center สำหรับกิจกรรมชุมชนและกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่างๆ โรงละคร อีเว้นต์ฮอลล์ ตลาด 

หากคุณสนใจที่พักท่ามกลางธรรมชาติสามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ The Forestias